็human rights city

โครงการค่ายเยาวชนสร้างสรรค์วัฒนธรรมสิทธิมนุษยชนในพื้นที่ภาคใต้

ตามที่ สำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ร่วมกับ มูลนิธิฟริดริช เนามัน ประเทศไทย 
จัดกิจกรรมอบรมเชิงปฏิบัติการ เพื่อสร้างการเรียนรู้เรื่องสิทธิมนุษยชน ภายใต้ “โครงการค่ายเยาวชนสร้างสรรค์วัฒนธรรมสิทธิมนุษยชนในพื้นที่ภาคใต้” เพื่อเปิดพื้นที่เรียนรู้เรื่องสิทธิมนุษยชนผ่านประสบการณ์ตรงให้กับเยาวชนทั้งในและนอกระบบการศึกษา โดย วิทยากรผู้เชี่ยวชาญและนักวิชาการด้านสิทธิมนุษยชน ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อนำองค์ความรู้ไปประยุกต์ใช้และขยายผลในการดำเนินกิจกรรมเพื่อส่งเสริม ปกป้อง และคุ้มครองสิทธิมนุษยชนในพื้นที่
     กิจกรรมครั้งนี้ มีผู้เข้าร่วม กว่า ๔๐ คน ภายใต้รูปแบบการอบรมเชิงปฏิบัติการ ผ่านการสืบค้นข้อมูลจากชุมชนพื้นที่จริง ซึ่งมีประเด็นปัญหาผลกระทบด้านสิทธิมนุษยชน ๓ พื้นที่ใน จ.สงขลา ได้แก่ ๑) กรณีชุมชนเขาคูหา อ.รัตภูมิ ๒) กรณีกลุ่มอนุรักษ์ชายฝั่งและฟาร์มทะเลชุมชนบ้านใหม่ หมู่ที่ 1 ต.สทิงหม้อ อ.สิงหนคร และ ๓) กรณีการบำบัดยาเสพติดโรงพยาบาลสะบ้าย้อย อ.สะบ้าย้อย โดยนำข้อมูลที่ได้จากการลงพื้นที่สัมภาษณ์ปากคำและบันทึกภาพผลิตสื่อ มาวิเคราะห์สถานการณ์ประเด็นด้านสิทธิมนุษยชนและแนวทางการส่งเสริมคุ้มครองสิทธิ ในแต่ละชุมชนร่วมกับวิทยากรด้านการผลิตสื่อ ด้านสิทธิมนุษยชน และเจ้าหน้าที่สำนักงานสิทธิมนุษยชน พื้นที่ภาคใต้
     การเรียนรู้ครั้งนี้ นับเป็นโอกาสสำคัญที่ผู้เข้าร่วมอบรมได้แลกเปลี่ยนข้อมูลและมุมมองด้านสิทธิมนุษยชน พร้อมคำแนะนำร่วมกับวิทยากรจากหลากหลายองค์กร รวมถึง ผศ.สุชาติ เศรษฐมาลินี กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ นายจุมพล  ขุนอ่อน รองเลขาธิการคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ และ นายดนัย มู่สา ผู้ทรงคุณวุฒิคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ อันนำไปสู่การออกแบบนวัตกรรมการแก้ไขปัญหาและการส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชน ตลอดจนผลิตสื่ออย่างสร้างสรรค์เพื่อสื่อสารประเด็นปัญหาด้านสิทธิมนุษยชนในระดับพื้นที่สู่สังคมวงกว้าง
     กระบวนการผลิตสื่ออย่างสร้างสรรค์ ถูกออกแบบให้เป็นอีกเครื่องมือในการเก็บข้อมูลชุมชน โดยผู้เข้าร่วมกิจกรรม แบ่งการทำงานออกเป็นพื้นที่ละ ๒ ทีม ๆ ละ ๕-๖ คน เพื่อให้เกิดกระบวนการแลกเปลี่ยนประเด็นการสื่อสารเสมือนการทำงานของกองบรรณาธิการ โดยวิทยากรการผลิตสื่อเริ่มจากแนะนำเทคนิคการถ่ายภาพเล่าเรื่องด้วยโทรศัพท์มือถือ การค้นหาประเด็นที่น่าสนใจ การเก็บข้อมูลภาพนิ่ง ภาพวิดีโอ และการสัมภาษณ์ผู้เกี่ยวข้อง จากนั้นนำข้อมูลจากการลงพื้นที่มาออกแบบการผลิตสื่อต่าง ๆ  ให้สอดคล้องกับดิจิทัลแพลตฟอร์มที่มีความหลากหลาย ทั้ง งานเขียน และคลิปสั้น พร้อมทั้งแลกเปลี่ยนทักษะการตัดต่อเล่าเรื่องให้น่าสนใจโดยใช้แอปพลิเคชันบนโทรศัพท์มือถือ ซึ่งมีผลงานการผลิตสื่อในโครงการ รวม ๑๒ ชิ้น  ได้แก่ บทความงานเขียน ๖ ชิ้น และงานวิดีโอ ๖ ชิ้น (https://shorturl.asia/muOqt) เพื่อแสดงถึงประสิทธิผลในการทำกิจกรรม ซึ่งนอกจากความรู้ ความเข้าใจและประสบการณ์ตรงด้านสิทธิมนุษยชนแล้ว การสื่อสารสาธารณะเป็นอีกทักษะสำคัญที่ผู้เข้าร่วมกิจกรรมสามารถเรียนรู้และนำไปประยุกต์ใช้เพื่อสื่อสารประเด็นสถานการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนจากพื้นที่สู่สังคมวงกว้างได้
 

เรียบเรียง : นายสันติ ศรีมันตะ